1263 จำนวนผู้เข้าชม |
Black Coffee หรือ กาแฟดำ คือ กาแฟธรรมดาที่ไม่ได้ปรุงแต่งรสชาติใดๆ ไม่เติมนม ไม่เติมครีมและไม่เติมความหวานด้วยน้ำตาล ซึ่งการที่ผู้ดื่มทิ้งส่วนผสมพิเศษเพื่อเติมรสชาติเหล่านี้ออกไป กาแฟที่ปกติเคยมีแคลอรี่สูง มีไขมันสูงก็จะกลายเป็นกาแฟที่เหล่าคอกาแฟสายรักสุขภาพสามารถเพลิดเพลินกับคุณประโยชน์จากกาแฟได้ เพราะกาแฟที่ไม่เติมสารปรุงแต่งจะเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ดื่ม ซึ่งด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่ต้องการหาตัวช่วยเพื่อลดน้ำหนัก กาแฟดำ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่ช่วยจะเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมแคลอรี่และไขมัน ซึ่งสำหรับสาวๆ หรือใครก็ตามที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับกาแฟดำเพื่อดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักอยู่นั้น วันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ พร้อมบอกว่าควรดื่มกาแฟดำเวลาไหนและเมล็ดกาแฟคั่วระดับอะไร ถึงจะได้รสชาติกาแฟดำที่อร่อยที่สุดมาให้คอกาแฟสายรักสุขภาพได้รู้กันแล้ว
หลายคนเลือกดื่มกาแฟ เพราะในกาแฟมีสารที่เรียกว่า “คาเฟอีน” ที่เป็นตัวช่วยเสริมให้ร่างกายของผู้ดื่มรู้สึกตื่นตัว รู้สึกมีเรี่ยวแรง ลดความง่วงและลดความเหนื่อยล้า แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว การดื่มกาแฟโดยเฉพาะกาแฟดำสามารถทำได้มากกว่าการรับสารคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย เพราะการดื่มกาแฟที่ไม่ปรุงแต่งรสชาติ และเลือกดื่มกาแฟดำให้ถูกเวลาสามารถช่วยให้ร่างกายของผู้ดื่มได้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการออกกำลังกายมากกว่า
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
บางครั้งกาแฟดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่แท้จริงแล้วกาแฟมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ค่อนข้างสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกาแฟจะช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางชนิดและยังช่วยต้านการอักเสบอีกด้วย แต่กระนั้นการดื่มกาแฟจะต้องเลือกเมนูกาแฟให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดื่ม ดังนั้นหากต้องการสารต้านอนุมูลอิสระจากการดื่มกาแฟ ควรเลือกดื่มเป็นกาแฟดำมากกว่าดื่มกาแฟเมนูนม เพราะกาแฟที่มีสารปรุงแต่งรสชาติ อาทิ น้ำตาลหรือ นม จะทำให้การดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระลดลง
2. ช่วยชะลอวัย
นอกจากสารคาเฟอีน สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกาแฟดำแล้ว กาแฟดำยังมีสารที่ช่วยทำให้ออกไซด์แตกตัวด้วย ซึ่งการแตกตัวของออกไซด์จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ไม่ปกติในร่างกาย ลดการสะสมของออกซิเจนที่มากเกินควร ซึ่งผลจากการยับยั้งและลดของสะสมจะทำให้ร่างกายกระชับขึ้น ผิวพรรณดูเต่งตึงขึ้นและลดการเกิดริ้วรอยได้ด้วย
3. ช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ
ข้อดีของการมีคาเฟอีนในกาแฟ คือคาเฟอีนจะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยขยายหลอดเลือดและทำให้การไหลเวียนของเลือดนั้นดีขึ้น ซึ่งการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจะส่งผลดีต่ออาการปวดศรีษะ และรวมถึงอาการเมาค้างในตอนเช้าอีกด้วย
4. เพิ่มการเผาผลาญ
กาแฟดำเป็นเมนูกาแฟของสายรักสุขภาพอย่างแท้จริง เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักและแคลอรี่ เพราะกาแฟดำมีส่วนผสมอยู่แค่ 2 อย่างคือ กาแฟและน้ำ ทำให้ผู้ดื่มได้รับพลังงานและแคลอรี่จากกาแฟดำค่อนข้างต่ำหรือมีเพียงแค่ 2 กิโลแคลอรี่เท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับเมนูกาแฟอื่นๆ แล้ว ถือว่าน้อยกว่าหลายเท่าตัว และถึงแม้จะได้รับพลังงานที่น้อย แต่ความสามารถในการทำหน้าที่เผาผลาญกลับส่วนทางกัน เพราะอัตราการเผาผลาญที่ได้จากกาแฟดำจะช่วยทำให้ร่างกายนำไขมันส่วนเกิน ไขมันสะสมไปใช้และช่วยให้ไขมันแตกตัวและสลายไปได้อย่างง่ายดาย
สำหรับสายสุขภาพที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะใจจดใจจ่อแล้วว่าเราควรดื่มกาแฟตอนไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อการลดน้ำหนักและออกกำลังกาย ซึ่งเราจะขอแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 เวลา โดยที่แต่ละเวลาจะให้ผลลัพธ์ของการดื่มกาแฟดำที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ดื่มก่อนออกกำลังกาย 45 นาที
เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น การดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกายประมาณ 45 นาที จะช่วยให้คาเฟอีนในกาแฟดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ดีขึ้น และเมื่อในร่างกายมีคาเฟอีนสูง คาเฟอีนจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการออกกำลังได้เป็นอย่างดี ต้านทานความเหนื่อยล้าและอาการปวดเมื่อยระหว่างออกกำลังได้ ทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานมากขึ้น และที่สำคัญยังควรหลีกเลี่ยงกาแฟที่ปรุงแต่งรสชาติ เพราะนอกจากจะลดประสิทธิภาพในการออกกำลังกายแล้วยังย่อยยากอีกด้วย
2. ดื่มตอนเที่ยงหลังมื้ออาหาร 30 - 60 นาที
หลายๆ คนเลือกดื่มกาแฟดำ เพราะต้องการให้กาแฟดำเป็นตัวช่วยในการลดความอ้วน ซึ่งเวลาในการดื่มกาแฟดำเพื่อลดความอ้วนที่ดีสุด คือการดื่มกาแฟดำหลังมื้อเที่ยงโดยประมาณ 30 - 60 นาที เพราะในช่วงเวลานี้ของวันและระยะเวลานี้คาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะเข้าไปช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด
เมล็ดกาแฟคั่ว โดยสากลจะแบ่งแยกออกเป็น 3 ระดับ คือเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน เมล็ดกาแฟคั่วกลางและเมล็ดกาแฟคั่วเข้ม ซึ่งแต่ละระดับการคั่วเมล็ดก็จะให้ผลลัพธ์ของรสชาติที่แตกต่างกัน และในแต่ละระดับการคั่ว แต่ละรสชาติก็จะเหมาะสมกับเมนูกาแฟที่แตกต่างกันไปด้วย โดยเมล็ดกาแฟคั่วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกาแฟดำ คือ เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน เพราะจะทำให้ได้รสชาติของผลไม้ ดอกไม้ได้ดีที่สุด และได้ความเปรี้ยวออกมาชัดเจนที่สุดด้วย หรือได้รสชาติที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟมากกว่านั่นเอง แถมเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนยังเป็นระดับการคั่วที่ได้รับคาเฟอีนสูงกว่าเมล็ดกาแฟคั่วเข้มอีกด้วย และโดยทั่วไปแล้วกาแฟดำจะสามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเมนูที่ผู้ดื่มต้องการดื่มเป็นเมนูไหน ยกตัวอย่างเมนูกาแฟดำยอดฮิต เช่น เอสเพรสโซ่ (Espresso), อเมริกาโน่ (Americano) หรือลองแบล็ค (Long Black Coffee)
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line Official คลิ๊ก >>