509 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันในประเทศไทยนั้นมีธุรกิจที่เกี่ยวกับกาแฟมากมาย เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยต้องการดื่มในทุกๆวัน ประเภทธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟที่มีมากที่สุด คือ เปิดคาเฟ่ เรียกได้ว่ามีผู้ลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟมากมาย ทุกจังหวัดในประเทศไทย ไม่ว่าที่ไหนก็มีคาเฟ่ ซึ่งไลฟ์สไตล์ของคาเฟ่ก็มีหลายแบบ ทั้งแบบที่เน้นร้านสวยงาม มีเครื่องดื่ม สวย น่ารับประทาน เน้นให้ลูกค้าถ่ายรูปไว้ลงโซเชียล รีวิวสวยๆ กับอีกแบบที่จะเน้นขายกาแฟเป็นหลัก คัดสรรวัตถุดิบดีๆ มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลาย และด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ละร้านจึงพยายามเพิ่มจุดเด่น หรือเอกลักษณ์ของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือ ทำแบรนด์ เมล็ดกาแฟ แบบเฉพาะของร้านเอง หมายความว่าทางร้านต้องคั่วกาแฟเป็นสูตรเฉพาะของร้านเอง หรือหากไม่สะดวกคั่วเอง ก็มักจะเลือกใช้ บริการคั่วกาแฟ วันนี้เรามีข้อมูลของทั้ง 2 แบบนี้มาให้ทุกท่านที่สนใจทำแบรนด์เมล็ดกาแฟได้ศึกษาข้อมูลดูว่าแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนจะเหมาะสม และคุ้มค่ากับธุรกิจคุณมากที่สุด
เมล็ดกาแฟที่คุณเห็นตามร้านกาแฟนั้นเรียกว่า เมล็ดกาแฟคั่ว คือผ่านกระบวนการการคั่วมาแล้ว ในการคั่วนั้นจะต้องใช้ เมล็ดกาแฟดิบ (Green Bean Coffee) เป็นเมล็ดกาแฟที่ยังไม่สามารถนำไปรับประทานได้ ไม่มีรสชาติ กลิ่น และสี นำมาผ่านกระบวนการความร้อน จึงจะสามารถรับประทานได้ ซึ่งจะแบ่ง ระดับการคั่วกาแฟ ออกเป็น คือ คั่วเข้ม คั่วกลาง คั่วอ่อน จะให้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป ขม หวาน เปรี้ยว และกลิ่นที่หอมนุ่ม ตามแต่ละคาแรกเตอร์ของเมล็ดกาแฟ
สำหรับท่านที่ไม่ใช้ บริการคั่วกาแฟ แต่อยากคั่วกาแฟเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่สามารถทำได้แน่นอน เพียงคุณต้องศึกษาข้อมูล รายละเอียดของเมล็ดกาแฟ วิธีการคั่ว กระบวนการต่างๆ และต้องมีความพร้อมที่จะคั่วกาแฟเองด้วย โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการคั่วกาแฟเอง ดังนี้
1. เงินลงทุน
แน่นอนว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะในการเริ่มต้นที่จะคั่วกาแฟเองนั้นก็ต้องมีต้นทุน ทั้งเครื่องคั่วกาแฟ เมล็ดกาแฟ คนที่ดูแลการคั่วกาแฟ และอื่นๆ ถ้ามีปัจจัยในด้านนี้พร้อม ก็สามารถเดินหน้าต่อได้
2. ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเมล็ดกาแฟ
คุณจะต้องรู้จักกับเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อที่จะเลือกมาใช้ในการคั่วกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อราบิก้า หรือโรบัสต้า รสชาติ รูปร่างหน้าตา ปริมาณคาเฟอีน น้ำตาล กรด บอดี้ ก็จะแตกต่างกันออกไป เพราะปลูกในพื้นที่ที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าแบรนด์ของคุณอยากได้กาแฟคั่วเป็นรสชาติแบบไหน จึงจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟได้ถูกต้อง
3. การเลือกประเภทเครื่องคั่วกาแฟ
เมื่อคุณมีเงินทุนพร้อมจะซื้อเครื่องคั่วกาแฟแล้ว ก็ต้องศึกษาเครื่องคั่วกาแฟของแต่ละประเภทด้วย โดยตามท้องตลาดจะมีแบบที่นิยมใช้กันอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ เครื่องคั่วประเภท Fluid Bed Roastersเครื่องคั่วประเภท Drum Roasters และเครื่องคั่วประเภท Tangential Roasters แต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการคั่ว และให้รสชาติที่แตกต่างกัน โดยให้คุณเลือกประเภทเครื่องคั่วจากคุณสมบัติเครื่องคั่ว การใช้งาน ความทนทาน เพื่อให้เหมาะสม และคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด
4. ทำเล พื้นที่ในการคั่ว
ถ้าหากคุณคั่วทานเองที่บ้าน เป็นเครื่องเล็กๆก็ไม่มีปัญหาในการหาพื้นที่ แต่หากคุณทำแบรนด์กาแฟเป็นของตัวเอง คุณจะต้องมีพื้นที่ในการวางเครื่องคั่วกาแฟที่เพียงพอ มีไฟฟ้าพลังงานเพียงพอที่จะใช้เครื่องคั่วได้ตลอดทั้งวัน และอากาศถ่ายเทสะดวก เนื่องจากเครื่องคั่วจะมีความร้อน ควัน และกลิ่นออกมาตลอดการคั่ว
5. ความรู้เรื่องการคั่วกาแฟ
คุณจะต้อง เรียนรู้การคั่วกาแฟ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงเคล็ดลับต่างๆ ทั้งการควบคุมอุณหภูมิ การสังเกตุเมล็ด เพื่อให้เมล็ดกาแฟออกมาเป็นแบบที่คุณต้องการ
บริการคั่วกาแฟ หรือ การทำ oem กาแฟ สร้างแบรนด์กาแฟของคุณเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องคั่วกาแฟเอง ไม่ต้องมีโรงคั่ว แต่ก็สามารถเลือกกาแฟแบบที่คุณต้องการได้ ซึ่งที่ “บาริสต้า บัดดี้” เรายินดีให้บริการการรับคั่ว oem กาแฟ โดยมีเมล็ดกาแฟให้เลือกมากมาย อาทิ เมล็ดกาแฟเอธิโอเปีย เมล็ดกาแฟโคลัมเบีย เมล็ดกาแฟบราซิล เมล็ดกาแฟเทพเสด็จ เมล็ดกาแฟแจ้ห่ม เมล็ดกาแฟดอยช้าง และเมล็ดกาแฟน่าน คุณสามารถเลือกเบลนด์กาแฟให้เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณ แบบไม่ซ้ำใคร เพื่อเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ หรือร้านกาแฟได้ และเป็นจุดขายที่จะมัดใจลูกค้า จนกลายเป็นลูกค้าประจำได้
โดยทั้งหมดนี้แค่คุณทำ oem กับเรา คุณที่คุณจะสามารถมีแบรนด์เมล็ดกาแฟเป็นของตัวเองได้ แบบ ครบ จบ ที่เดียว หากสนใจให้เราดูแลแบรนด์เมล็ดกาแฟของคุณ เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี ติดต่อเพื่อคุยกับเราโดยตรงได้เลย โดยแอดไลน์ @baristabuddy (มี@นำหน้า) หรือโทร 02-887-5335
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line Official คลิ๊ก >> 
