187115 จำนวนผู้เข้าชม |
MARTINI GLASS | ||||
1. แก้วมาร์ตินี่ (Martini glass) ปัจจุบันมีการนำแก้วมาร์ตินี่มาใส่เหล้าค็อกเทล และเหล้าเพียวๆ (Straight up) อย่างแพร่หลายจนยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นแก้วสำหรับยุคสมัยใหม่โดยแท้ ด้วยการออกแบบให้มีก้าน ทรงยาว และมีตัวแก้วไว้ใส่เหล้า ซึ่งค่อนข้างคลาสสิคอีกชนิดหนึ่ง แก้วมาร์ตินี่น่าจะได้มีการเตรียมไว้สองขนาด ก็คือ แบบ Single martini ขนาดความจุ 2-3 ออนซ์ สำหรับใส่เหล้าตัวเดียว และ แบบ Double martini ขนาดความจุ 3-4 ออนซ์ สามารถใส่เหล้าตัวถึง 2-3 ตัว | ||||
COCKTAIL GLASS | ||||
2. แก้วค็อกเทล (Cocktail glass) เป็นแก้วที่ออกแบบมาไว้ใส่เครื่องดื่มค็อกเทลเป็นหลัก โดยที่ไม่นิยมบรรจุน้ำแข็งลงไป เพรามีความจุเพียง 6-7 ออนซ์ เครื่องผสมหลายๆชนิด หากต้องการเน้นสี และรสชาติที่คงที่จะนิยม ใส่แก้วชนิดนี้ | ||||
CHAMPAGNE SAUCER GLASS | ||||
3. แก้วแชมเปญ ซอสเซอร์ (Champagne Saucer glass) ปัจจุบันเมื่อมีการจัดงานเลี้ยงหรูๆ จะนิยมนำแก้วแชมเปญ ซอสเซอร์ นี้ มาตั้งวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ และเมื่อเทสปาร์คกลิ้ง ไวน์ลงมาบนแก้ยอดใบบนสุด น้ำสีเหลืองทองนั้น ก็จะไหลลงมา เหมือนม่านสีทองอำพัน แต่ไม่นิยมนำไปใส่แชมเปญ เพราะจะทำให้ฟองสวยๆ หายไปโดยเร็ว เครื่องดื่มค้อกเทลที่ใช้แก้วนี้ก็มีอยู่เช่น Gimlet, Vimlet ตระกูล Frozen | ||||
TULIP CHAMPAGNE GLASS | ||||
4. แก้วทิวลิป แชมเปญ (Tulip Champagne glass) จุดประสงค์หลักก็คือแก้วสำหรับใส่แชมเปญ เพราะต้องการอวดพรายฟองสวยๆ และต้องการเก็บก๊าซในแชมเปญให้นานขึ้น ความจุของแก้วจะประมาณ 6-7 ออนซ์ หากมีการนำไปใส่เครื่องดื่มค็อกเทลก็มักจะเป็นเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมด้วยสปาร์กกลิ้งไวน์ อยู่ด้วย เช่น Kir Royal | ||||
BRANDY / SNIFTER / BALLOON GLASS | ||||
5. แก้วบรั่นดี (Brandy / Snifter / Balloon glass) นิยมใช้ใส่บรั่นดีหรือเหล้าตัวเดียวเพียวๆ ที่เน้นด้วยกลิ่นหอม แก้วบรั่นดีนี้ ถูกออกแบบมาให้ถือด้วยฝ่ามือ เพราะต้องการให้มีการถ่าย อุณหภูมิความรัอนจากตัวเราไปสู่แก้ว เมื่อน้ำเหล้าในแก้วอุ่นขึ้น ก็จะส่งกลิ่นหอมพวยพุ่งออกมา เครื่องดื่มค็อกเทลที่ใช้แก้วนี้ก็เช่น B&B Straight-up, Cognac Straight-up, Rusty nail Straight-up | ||||
LIQUEUR OR CORDIAL GLASS | ||||
6. แก้วลิเคียว / คอร์เดียล (Liqueur / Cordial glass) แก้วชนิดนี้มีความจุ 1 1/2 - 2 ออนซ์เท่านั้น การใส่เหล้าจึงมีที่ว่างสำหรับ 1-2 ตัวเท่านั้น ส่วนมาก จะเป็นเหล้าลิเคียว เพื่อไว้สำหรับดื่มหลัง หรือก่อนอาหาร แต่ก็มีค็อกเทลบางตัวที่ต้องใส่แก้วลิเคียวนี้ นั่นก็คือ Rainbow, B-52 และการดื่มแบบ Straight-up ทั่วๆไป | ||||
SOUR GLASS | ||||
7. แก้วซาวร์ (Sour glass) เป็นแก้วที่มีความจุ ประมาณ 4-5 ออนซ์ รูปทรงจะคล้ายกับลิเคียวแต่มีขนาดใหญ่กว่า มีไว้สำหรับการใส่เหล้าพอร์ต และเครื่องดื่มผสมไม่กี่ชนิด เช่น Whisky Sour หรือตระกูลซาวร์ต่างๆ | ||||
SHERRY GLASS | ||||
8. แก้วเชอร์รี่ (Sherry glass) เป็นแก้วไวน์ที่มีรูปร่างสะโอดสะอง รู้จักกันดีในประเทศสเปน ชื่อ "copita" ซึ่งก็ถือเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ภาคภูมิใจยิ่งนัก การนำมาใช้สอยก็เพื่อให้เหมาะกับไวน์เชอร์รี่ที่ทำมาจากประเทศสเปนเช่นเดียวกัน ขนาดความจุจะอยู่ที่ 2-3 ออนซ์ | ||||
MUG GLASS | ||||
9. แก้วมัก (Mug glass) เป็นแก้วเบียร์ที่มีหูจับ นิยมนำไปใส่เบียร์สดตามเทศกาล หรืองานเลี้ยงต่างๆ เรื่องของความจุ ไม่น่าจะมีกฏตายตัวลงไป แต่น่าจะขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า ซึ่งขนาดยิ่งใหญ่ก็จะยิ่งใส่เบียร์ได้มาก เพราะอารมณ์ของลูกค้าอยู่ในช่วงของความผาสุข สนุกสนานอยู่แล้ว และผมเองยังมองไม่เห็นค็อกเทลชนิดใดที่ใช้แก้วนี้ นอกจากน้ำมะพร้าวอ่อนที่เฉาะใหม่ๆ ขนาดความจุโดยประมาณจะอยู่ที่ 10-14 ออนซ์ | ||||
PILSNER GLASS | ||||
10. แก้วพิลสเนอร์ (Pilsner glass) เป็นแก้วเบียร์อีกชนิดหนึ่งที่มีการใช้ทั่วไปในภัตตาคาร และร้านอาหารต่างๆ ปากบานๆที่สูงขึ้นมาก็น่าจะเป็นการเปิดฟองของของเบียร์ ให้ผุดขึ้นมาน่ารับประทานยิ่งขึ้น มีค็อกเทลบ้างเหมือนกันที่นิยมใช้แก้วนี้ นั่นก็คือ Shandy, Mimosa และเครื่องดื่มตระกูลเบียร์ต่างๆ มีความจุโดยประมาณอยู่ที่ 10-14 ออนซ์ | ||||
BOOTH GLASS | ||||
11. แก้วรองเท้าบูธ (Booth glass) เป็นแก้วเบียร์รูปทรงแฟนซีอีกชนิดหนึ่ง ที่ยังมีใช้อยู่ในบางร้านอาหาร เพราะจะเป็นการสร้างบรรยากาศ และความครื้นเครงได้อย่างสนุกสนานอีกแบบหนึ่ง จะมีความจุอยู่ไม่จำกัด แต่ที่เหมาะสมก็จะอยู่ที่ 16-20 ออนซ์ | ||||
RED WINE GLASS | ||||
12. แก้วไวน์แดง (Red Wine glass) โดยปกติแล้ว แก้วไวน์แดงที่เห็นดังรูปนี้ จะเหมาะกับไวน์แดงต่างชนิดกัน แต่โดยภาพรวมก็สามารถใช้ได้ทั่วไป ลักษณะของแก้วที่ดีต้องมีความใหญ่เพียงพอที่จะรินไวน์ได้พอประมาณ 2-3 คำ นั่นก็คือ ห้ามเกินครึ่งแก้วเด็ดขาด เมื่อผู้ดื่มต้องการรับรู้กลิ่นหอม อันอบอวลของไวน์อย่างชัดเจน จะต้องมีการกระตุ้นด้วยการแกว่งแก้ว ฉะนั้นแก้วไวน์แดงที่ดีจะต้องออกแบบมาให้กระทำสิ่งเหล่านี้ได้ ความจุประมาณ 8-10 ออนซ์ | ||||
WHITE WINE GLASS | ||||
13. แก้วไวน์ขาว (White Wine glass) เป็นแก้วที่มีขนาดเล็กกว่าแก้วไวน์แดง คุณสมบัติของแก้วไวน์ขาวคือ ไม่ต้องการให้ไวน์มีการถ่ายเทอากาศมากนักหรือสิ่งที่เราเรียกว่าหายใจ ( breathe ) กลิ่นหอมต่างๆที่อยู่ในไวน์ขาวไม่จำเป็นต้องมีการพัฒนาเมื่ออยู่ในแก้วอีกแล้ว และในทางปฏิบัติเราอาจใช้แก้วไวน์ขาวนี้ใส่ไวน์แดงชนิด House Wine หรือไวน์ที่ขายเป็นแก้วได้เช่นกัน และก็ยังใช้ใส่ค็อกเทลบางชนิดที่มีไวน์ผสมก็ได้เช่น Sangria, Spritzer, Kir ความจุจะประมาณ 7-9 ออนซ์ | ||||
BORDEAUX GLASS | ||||
14. แก้วไวน์บอร์โดซ์ (Bordeaux glass) ไวน์แดงจากแคว้นบอร์โดซ์นี้ ต้องการเวลา ในการเผยความสมบูรณ์ของกลิ่นต่าง ๆ ที่ได้จากการเก็บบ่มมานานปี ขนาดและรูปทรงต่าง ๆ ต้องเอื้ออำนวยให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศ มีการปรับตัวและการพัฒนาอีกครั้งหนึ่ง เหมือนเป็นการปลุกให้ไวน์ชั้นดีตื่นจากการหลับใหลจากเวลานานนับปี ส่วนมากจะมีใช้ในห้อง Grill Room ขนาดใหญ่ ความจุจะประมาณ 15-20 ออนซ์ | ||||
Hurricane Glass | ||||
15.แก้วเฮอลิเคน ขนาด 22 ออนซ์ ใช้ใส่ค็อกเทลทั่วไปที่เน้นปริมาณมาก เป็นประมาณแก้วแฟชั่น | ||||
OLD FASINONED GLASS / ROCK GLASS | ||||
16. แก้วร็อค / โอลด์แฟชั่น (Rock / Old Fasinoned glass) หลายคนเรียกว่าเป็นแก้วทรงมู่ทู่ สไตล์โบราณๆ นั่นก็ถือว่าถูกต้องครับ เพราะชื่อก็ฟ้องอยู่ทนโท่แล้ว แก้วชนิดนี้นิยมใส่น้ำแข็งก้อน แล้วราดด้วยเหล้าตัวเดียวหรือ 2 ตัว ลงไป ในสไตล์ on the rock ค็อกเทลที่นิยมใช้ก็เช่น Rusty Nail, Black Magic, Black Russian, Godfather ฯ | ||||
HI-BALL / HIGHBALL GLASS | ||||
17. แก้วไฮบอล (Hi-ball / Highball glass) เป็นแก้วทรงสูงที่มีรูปทรงมาตรฐาน ใช้ได้ในทุกที่ทุกหนทุกแห่ง น่าจะเป็นแก้วที่เรียกได้ว่า Universal Glass เลยทีเดียว มีความจุอยู่ที่ประมาณ 8-10 ออนซ์ เครื่องดื่มผสมที่ใช้แก้วชนิดนี้ ก็เช่น Bloody Mary, Caba Libre, Gray Houd, Tequila Sunrise, Yellow Jacket | ||||
SLING GLASS | ||||
18. แก้วสลิง (Sling glass) เป็นแก้วอีกชนิดที่อยู่ในตระกูล Hi-ball แต่ขนาดใหญ่กว่า ซึ่งบางครั้งก็เรียกรวมๆไปเลยว่า Hi-ball มีความจุอยู่ที่ 10-12 ออนซ์ ในการใส่เครื่องดื่มค็อกเทลนอกจากจะใช้คล้ายคลึงกับไฮบอลแล้ว ยังจะเน้นในค็อกเทลตระกูล Sling ทั้งหมด | ||||
COLLINS GLASS | ||||
19. แก้วคอลลินส์ (Collins glass) เป็นแก้วที่มีรูปทรงคล้ายคลึงกับ Hi-ball อีกชนิดหนึ่งแต่ใหญ่มากขึ้นกว่า 4 ออนซ์ ในการใช้งานจะนิยมใส่เช่นเดียวกับแก้ว Longdrink แต่ที่เน้นเฉพาะก็คือ ค็อกเทลในตระกูล Collins | ||||
Longdrink /zombie | ||||
20.แก้วรองดิ้งหรือแก้วซอมบี้ ขนาดบรรจุอยู่ที่ 12 -13. 1/2 oz นิยมใส่ค็อกเทลสูตรสแตรนดาสทั่วไปเช่นสูตร zombie,maitai เป็นต้น | ||||
ที่มา : http://www.bartendercocktail.net/365810-bartender.html |