เมล็ดกาแฟดอยช้าง เมล็ดกาแฟพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงไกลระดับโลก

1893 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เมล็ดกาแฟดอยช้าง เมล็ดกาแฟพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงไกลระดับโลก

          “ดอยช้าง” แบรนด์เมล็ดกาแฟที่ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จที่สำคัญของการปลูกและแปรรูปกาแฟอาราบิก้า 100 เปอร์เซ็นต์ในเชิงธุรกิจของอำเภอดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เดิมทีการนำเข้าของต้นกาแฟเริ่มจากการนำเข้าเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น แต่ด้วยความรู้ทางอุตสาหกรรมที่ไม่มากพอและกาแฟยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก การปลูกต้นกาแฟจึงซบเซาลง แต่ในขณะที่ธุรกิจกาแฟซบเซาผู้ก่อตั้ง กาแฟดอยช้าง ได้มองเห็นทางออกและเริ่มต้นสร้างตลาดการส่งออกเมล็ดกาแฟ พร้อมสร้างเครือร้านกาแฟที่ได้รับความประสบความสำเร็จไปทั่วประเทศไทย จน เมล็ดกาแฟดอยช้าง กลายเป็นแบรนด์ผู้ซื้อและผู้ผลิตเมล็ดกาแฟท้องถิ่นรายใหญ่ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แบรนด์เมล็ดกาแฟไทยอีกหลายๆ แบรนด์ในปัจจุบันและยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังร้านกาแฟ Stand Alone กว่าหลายร้อยสาขา และตลอดกว่า 10 ปีของการทำธุรกิจเมล็ดกาแฟ ดอยช้างได้ส่งออกเมล็ดกาแฟไทยไปสู่เมล็ดกาแฟโลกกว่าหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น แคนาดา อเมริกาหรืออังกฤษ แถมยังมีสาขากาแฟดอยช้างในต่างประเทศอย่างประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมาร์และเกาหลีอีกด้วย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้แบรนด์กาแฟพื้นบ้านของไทยอย่างดอยช้างได้รับการตอบรับและมีชื่อเสียงระดับโลกคือการได้ยอมรับในฐานะกาแฟเกรดพรีเมี่ยม ที่มีรสชาติของกาแฟเจือรสเปรี้ยว สัมผัสนุ่ม ละมุน ชุ่มคอ และได้รับคะแนนรีวิวจาก Coffee Review 90 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม

จุดเริ่มต้นของ เมล็ดกาแฟดอยช้าง

          ในปีพ.ศ. 2512 มีโครงการพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างความเป็นอยู่ของประชาชนและชาวเขาให้ดีขึ้น รวมถึงลดพื้นที่ในการปลูกให้โทษเสพติดอย่างฝิ่น โดยให้หันมาปลูกพืชเมืองหนาว และแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิก้าให้ทดลองปลูก ซึ่งในตอนเริ่มต้นมีเพียงผู้ใหญ่บ้านพิกอ แซ่ดู เป็นเกษตรกรรายเดียวที่ปลูกกาแฟ แต่ด้วยกาแฟไม่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับท้องถิ่นได้ ผู้ใหญ่บ้านพิกอจึงได้หันมาปรึกษากับคุณวิชา พรหมยงค์ที่เป็นเพื่อนสนิท เพื่อทดลองนำเมล็ดกาแฟสดมาแปรรูปเป็น เมล็ดกาแฟคั่วบด สำหรับการค้าปลีก และเมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีในตอนนั้น คุณวิชาเปรียบเสมือนพี่เลี้ยงผู้ผลักดันชุมชนดอยช้างและกาแฟดอยช้างให้เป็นที่รู้จัก พร้อมได้รับการขนานนามว่าเป็น Mr.Coffee หรือ Mr.Doi Chang เพราะเป็นเจ้าของไอเดียโลโก้ภาพวาดพิกอที่อยู่ด้านหน้าซองกาแฟและเป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อบริษัทในปัจจุบันว่า ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล ซึ่งการได้ตั้งชื่อแบรนด์กาแฟว่า “ดอยช้าง” ของวิชาในจุดเริ่มต้นนั้น ทำให้กาแฟดอยช้างได้รับการรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสหภาพยุโรป (EU) และของประเทศไทย

ลักษณะพื้นที่การเพาะปลูกเมล็ดกาแฟ

พื้นที่เพาะปลูก : ตำบลวาวี จังหวัดแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

ความสูงจากระดับน้ำทะเล : 1,000 - 1,700 เมตร

ขนาดพื้นที่การเพาะปลูก : ประมาณ 30,000 ไร่

วิธีในการเพาะปลูก : ปลูกแบบออร์แกนิค ปราศจากยาฆ่าแมลง

สภาพอากาศการเพาะปลูก : อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

สภาพพื้นที่การเพาะปลูก : พื้นที่ภูเขาสูง อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยาการทางดิน

รสชาติของ เมล็ดกาแฟดอยช้าง

          รสชาติของกาแฟดอยช้างเป็นรสชาติที่มีเอกลักษณ์  มีความนุ่ม มีความหอม มีความกลมกล่อม ดื่มง่าย ดื่มแล้วชุ่มคอ ให้สัมผัสหลังการดื่มนานเพราะมีบอดี้ที่หนักแน่น มีความเปรี้ยว ความหวานจากผลไม้ และมีปริมาณคาเฟอีนไม่สูง หลายแบรนด์และหลายร้านกาแฟนิยมเลือกใช้ เพราะมีมาตรฐานกระบวนการผลิตรสชาติระดับโลก เหมาะสำหรับทำเครื่องดื่มทุกเมนู และที่สำคัญ เมล็ดกาแฟดอยช้าง ราคา ถูก แต่คุณภาพเกรดพิเศษ

8 กระบวนการสร้างสรรค์รสชาติ เมล็ดกาแฟดอยช้าง

          กาแฟดอยช้างมีขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพตั้งแต่จุดเริ่มต้นการปลูกจนถึงกระบวนการแปรรูปที่ถูกสร้างสรรค์รสชาติให้มีรสชาติของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าชนิดพิเศษ (Specialty coffee) ที่มีเฉพาะที่ดอยช้างตำบลวาวี จังหวัดแม่สรวย จังหวัดเชียงรายเท่านั้น

     1. การล้างและคัดแยกเมล็ดที่สมบูรณ์

          หลังจากที่เมล็ดกาแฟสดจะถูกเก็บเกี่ยวจากต้นด้วยมือทุกครั้ง ขั้นตอนแรกของกระบวนการสร้างสรรค์รสชาติคือการล้างทำความสะอาดสกัดสิ่งเจือปนที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างขั้นตอนการเก็บเกี่ยวหรือขนส่งด้วยการนำมาเทลงบ่อน้ำ เพราะวิธีการผลิตแบบเปียกเป็นวิธีการที่นิยมใช้กับเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของเมล็ดกาแฟดอยช้าง และหลังจากการทำความสะอาดแล้วเมล็ดจะถูกคัดแยกเอาเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สมบูรณ์ที่จมน้ำเท่านั้น

     2. การกะเทาะเปลือก

          เมื่อได้เมล็ดกาแฟที่สมบูรณ์ตรงตามมาตรฐานแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการกะเทาะเปลือกหลังการเก็บเกี่ยวทันทีใน 24 ชั่วโมงแรกด้วยเครื่องกะเทาะเปลือกกาแฟสด

     3. การหมัก

          เมล็ดกาแฟที่ถูกผ่านขั้นตอนการผลิตแบบเปียกและถูกกะเทาะแล้วจะต้องถูกนำมาหมักให้แห้งเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง และนำไปหมักเปียกต่ออีก 24 ชั่วโมง เพราะขั้นตอนการหมักจะช่วยขจัดเมือกที่เคลือบออกจากเมล็ดกาแฟได้ และหลังจากนั้นเมล็ดกาแฟจะถูกนำไปหมักต่อในน้ำสะอาดอีก 20 - 24 ชั่วโมงเพื่อให้กาแฟมีกลิ่นและรสชาติที่สะอาดมากยิ่งขึ้น

     4. การตากเมล็ดกาแฟ

          หลังจากการแช่พักเมล็ดกาแฟครบ 20 - 24 ชั่วโมงแล้ว เมล็ดจะถูกนำมาเทลงบนลานตากแห้ง และทำให้แห้งด้วยแสงอาทิตย์เป็นระยะเวลา 7 - 8 วัน พร้อมทำการพลิกกลับเมล็ดกาแฟเป็นครั้งคราวเพื่อให้เมล็ดกาแฟระเหยน้ำได้อย่างสม่ำเสมอ

     5. การเก็บรักษา

          หลังจากที่ได้กาแฟที่มีความชื้นในระดับที่ต้องการแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการเก็บรักษาในกระสอบที่สะอาด และถูกเก็บในคลังรักษาที่มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมและอากาศถ่ายเทสะดวก

     6. การผลิตกาแฟสาร

          การผลิตกาแฟสารคือการนำเมล็ดกาแฟเข้าสู่การสีด้วยเครื่องสีเมล็ดกาแฟ เพื่อเอาส่วนที่หุ่มเมล็ดออก ก่อนนำสู่ขั้นตอนการคัดแยกกาแฟสาร

     7. การคัดเกรดกาแฟสาร

          การคัดแยกเกรดกาแฟสารของกาแฟดอยช้างจะแบ่งแยกออกเป็นทั้งหมด 4 เกรดตามขนาดของเมล็ดกาแฟ โดยการผ่านเครื่องคัดแยกคุณภาพสูง และด้วยการคัดซ้ำผ่านแรงงานคน ซึ่งเกรดกาแฟสารทั้ง 4 เกรดจะต้องมีความชื้นอยู่ที่ 11.5 - 12 เปอร์เซ็นต์

     8. การคั่วกาแฟ

          หลังจากแบ่งกาแฟสารได้แต่ละเกรดแล้ว กาแฟสารจะถูกนำมาคั่วด้วยเครื่องคั่วคุณภาพสูงอัตโนมัติ และถูกนำบรรจุลงถุงฟอยล์ 4 ชั้นที่มีวาล์วระบายอากาศทางเดียว

ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line Official คลิ๊ก >> 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้